วันจันทร์ที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

Berlin... เมืองประวัติศาสตร์เชื่อมอนาคต


Berlin... เมืองประวัติศาสตร์เชื่อมอนาคต


          กรุงเบอร์ลิน นับเป็นจุดนัดพบกันของกลิ่นอายประวัติศาสตร์และความเจริญรุ่งเรืองในสมัยปัจจุบัน ผมโชคดีที่ได้สัมผัสทั้งกาลเวลาในอดีตที่สะท้อนผ่านทางสถาปัตยกรรมโบราณ ทั้งยังได้รับรู้ถึงความก้าวหน้าของเทคโนโลยีในยุคปัจจุบัน
          เมืองแห่งนี้ มีความไม่เหมือนใครที่ว่า ในครั้งหนึ่ง เมืองนี้เคยเป็นเมืองที่ถูกแบ่งออกเป็น 4 ประเทศ ในยุคหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 คือ ฝรั่งเศส, อังกฤษ, สหรัฐอเมริกา และ โซเวียต ซึ่ง ต่อมา เมืองนี้ถูกแบ่งเป็น West Berlin และ East Berlin ซึ่ง East Berlin คือ Sector ของ โซเวียต ปกครองด้วยระบบ Communist ส่วน อีก 3 ประเทศที่เหลือ จะเป็น West Berlin ซึ่งปกครองด้วยระบบ ประชาธิปไตยซึ่งปกครองด้วยระบบ ประชาธิปไตย



จุดที่ผมจะพาไปเที่ยวชมวันนี้ ก็จะอยู่บริเวณใจกลางเมือง ซึ่งสามารถเดินถึงกันได้ทั้งหมด โดยเริ่มจากสถานี Berlin Hauptbahnhof หรือ สถานีรถไฟหลักของเมือง Berlin นั่นเอง ซึ่งไม่ว่าจะนั่งรถไฟมาจากเมืองอื่น หรือ มาจากสนามบินใน Berlin ทั้ง 2 แห่ง ก็จะสามารถมาถึงที่นี้ได้ทั้งหมด



อันนี้คือแผนที่สำหรับช่วงแรก เป็นเส้นทางคร่าวๆ ตามที่ผมกำลังจะแนะนำต่อไป



เส้นทางการเดินในช่วงนี้ เริ่มจาก Hauptbahnhof (วงกลมสีแดง) โดยแบ่งเป็น
ช่วงสีน้ำเงิน – แนะนำให้เดิน
ช่วงสีแดง – ใช้
Bus สาย 200
ช่วงสีเขียว – สามารถนั่งรถ
Bus ต่อ หรือ จะเดินก็ได้

เมื่อพร้อมแล้วก็เดินออกจากสถานีรถไฟหลัก ทางออก Washington Platz เดินมาสักพักหนึ่งก็จะมาถึง Reichstag หรือ รัฐสภา




จากนั้นเดินต่อมาเรื่อยๆ ก็จะเจอกับ Brandenburger Tor (หรือ Brandenburg Gate) อันเป็นสัญลักษณ์ของกรุงเบอร์ลิน ประตูเมืองเก่าบานนี้ตั้งอยู่ที่ Pariser Platz และถนน Unter den Linden ซึ่งสถานที่นี้ถือเป็นเครื่องหมายแห่งความสงบสุข ด้านบนของประตูมีรูปปั้นชื่อ Quadriga สูง 5 เมตร และมีราชินีแห่งชัยชนะ (Siegesgoettin Viktoria) ควบขับรถเทียมม้า 4 ตัว มุ่งหน้าไปทางฝั่งตะวันออกของเบอร์ลิน  ในมือถืออิสริยาภรณ์กางเขนเหล็กกับพวงมาลัยใบมะกอก และนกอินทรี ซึ่งเป็นสัตว์ที่แสดงอำนาจของยุคปรัสเซียร์ (Preussen/Prussia)



ไม่ไกลจาก Brandenburger Tor ก็จะเจอกับ holocaust memorial หรือ อนุสรณ์การฆ่าล้างชาวยิวในยุคของ Hitler


 จากนั้นก็จะเป็น Potsdamer Platz ซึ่งเป็นหนึ่งในสี่แยกที่จอแจที่สุดในเมือง Berlin และเป็นที่ตั้งของตึกสูงหลายๆตึก รวมทั้ง Sony Center ด้วย และ ตรงนี้ ก็จะมีชิ้นส่วนของ กำแพง Berlin ให้เราได้ชมกันด้วย


จากตรงนี้ เพื่อความรวดเร็ว เราจะเลือกใช้บริการของรถ Bus สาย 200 เพื่อเดินทางต่อ ซึ่งรถสายนี้ก็จะเป็นรถ2ชั้นสีเหลืองเป็นเอกลักษณ์ของรถบัสเมืองนี้ ซึ่งสามารถนั่งชมวิวจากด้านบนได้ (ราคาอยู่ที่ 2.30 Euro และสามารถใช้นั่งรถไฟใต้ดิน และ S-Bahn ได้ทั่ว Berlin ภายในเวลา 2 ชั่วโมง)


ระหว่างเส้นทางนี้ ก็จะผ่านทั้ง ถนนFriedrich (Friedrichstraße), Humboldt University of Berlin, Berliner Dom ซึ่งเป็นโบสถ์ที่เป็น Landmark อีกแห่งหนึ่งของ Berlin, Museum Island, หอTV (Fernsehturm) ซึ่งก็จะมีทั้งร้านอาหารและจุดชมวิวอยู่ด้านบน จากนั้น ก็จะมาถึงยัง Alexander Platz ศูนย์กลางของ East Berlin ซึ่งเป็นที่ที่มีทั้ง ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่, เสื้อผ้าแบรนด์, ร้านเครื่องใช้ไฟฟ้า และ อุปกรณ์ Electronic และ ร้านอาหาร รวมถึง บาร์ อีกมากมาย อีกทั้งยังเป็นจุดเชื่อมต่อที่สำคัญของ รถไฟใต้ดิน 3 สาย กับรถ S-Bahn และ Regional และ รถราง กับ รถ Bus หลายสาย นับว่าเป็นจุดนัดพบของคนทุกเพศทุกวัยเลยก็ว่าได้



 และ ณ ที่แห่งนี้ ก็จะมีเจ้านาฬิกาโลก (weltzeituhr) ซึ่งบอกเวลาทั่วโลก และ ณ ที่แห่งนี้ เรียกได้ว่าเป็น จุดนัดพบเลยก็ว่าได้ เพราะมักจะมีคนมายืนรอใครสักคนอยู่ตลอดเวลา


Tips : หากมีเวลาเยอะหน่อย ก็แนะนำให้ลงรถ Bus ที่ป้าย “Unter den Linden/Friedrichstr.” แล้วเดินตามถนน Unter den Linden มาเรื่อยๆ เพราะนอกจากจะสามารถได้สัมผัสกับบรรยากาศของตึกเก่าๆ และ ถ่ายรูปกับ มุมสวยๆ หรือเข้าไปตามอาคารที่น่าสนใจแล้ว บริเวณนี้ มีทั้งร้านอาหาร และ ร้านของฝาก รวมถึง ที่ Friedrichstr. ก็มีทั้งร้านสินค้าแบรนด์เนมมากมายให้ได้เลือกสรร




หลังจากที่ได้ Shopping และ อิ่มอร่อยกับอาหารที่นี่แล้ว เราก็จะเดินทางต่อไปยัง สถานี Zoologischer Garten ซึ่งถือว่าเป็นใจกลางของ West Berlin เลย ซึ่งการเดินทางก็มีหลายวิธี ให้ได้เลือกตามใจชอบ

1.    นั่งรถ S-Bahn หรือ รถ Regio(ซึ่งจะเป็นรถไฟ 2 ชั้น ที่จอกน้อยกว่า) โดยใช้เวลาประมาณ 10~15 นาที เป็นรถไฟบนดิน วิ่งเลียบกับแม่น้ำ Spree สามารถชมวิวทิวทัศน์ ผ่านเส้นทางที่ตัดกลางเมืองได้


รถ S-Bahn
รถ RE หรือ RB (Regio Express หรือ Regio Bahn) ซึ่งเป็นรถไฟ 2 ชั้น

2.    นั่งรถใต้ดิน หรือ U-Bahn สาย U2 ใช้เวลาประมาณ 20~25 นาที ซึ่งบางช่วง รถสายนี้จะวิ่งขึ้นมาบนดิน และสามารถเห็นวิวของ Potsdamer Platz ได้ และ ช่วงบนดิน รถก็จะวิ่งผ่านสถานีที่มีการตกแต่งด้วยสไตล์แบบเก่าๆ ซึ่งแม้อาจจะเห็นทิวทัศน์บนดินน้อยกว่าวิธีอื่นๆ แต่คงจะได้สัมผัสถึงความเจริญของเมืองนี้ที่มีมาตั้งแต่อดีตของ Berlin เป็นแน่
และ หากเดินทางด้วยวิธีนี้ ก็สามารถที่จะเลือกลงที่สถานี Wittenbergplatz เพื่อขึ้นมาเดินบนถนน Shopping “Kurfürstendamm และ Tauentzienstr.” ได้ ซึ่งเมื่อออกจากสถานีก็จะเจอกับห้าง Kadewe ห้างที่หรูที่สุดของ Berlin ทันที (ของที่ระลึกที่นี่ บางทีราคาถูกกว่าร้านข้างนอกด้วยนะครับ)




3.    นั่งรถ Bus สาย 100 ใช้เวลาประมาณ 30~40 นาที – หากอยากจะนั่งรถ 2 ชั้นชมเมือง นี่ก็เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ เพราะ รถจะวิ่งไปบนถนน Unter den Linden (ช่วงนี้จะเหมือนกับ ที่ผ่านมาเมื่อกี้) แล้ว รถจะเลี้ยวแล้ววิ่งผ่าน รัฐสภา, พระราชวัง Bellevue, อนุสาวรีย์แห่งชัยชนะ (Siegessaeule) [บริเวณนี้ทั้งหมดเรียกว่า Grosser Stern แปลว่าดาวดวงใหญ่ เพราะมีถนนห้าสายใหญ่มาบรรจบกันที่อนุสาวรีย์นี้], ผ่าน Tiergarten, สวนสัตว์ Berlin, Europa Center และมาสุดสายที่ “S+U Bhf. Zoologischer Garten” 



ซึ่งการเดินทางทั้ง 3 แบบนั้น สามารถใช้ตั๋วประเภท “Berlin A,B” ได้ทั้งหมด

       ที่ตรงนี้ก็จะมีทั้งสวนสัตว์ขนาดใหญ่, ถนน Shopping “Kurfürstendam” ที่คงจะดูดเงินออกจากกระเป๋าของขาช๊อปได้มากเลยทีเดียว และ ยังมีอย่างอื่นอีกมากมาย รวมทั้ง The Story of Berlin ที่นำเสนอ ประวัติศาสตร์ต่างๆของ Berlin รวมถึงการเปิดเข้าชมหลุมหลบภัยที่สร้างในสมัยสงครามเย็น ใต้ถนนอันพลุกพล่านแห่งนี้ด้วย


Zoo Berlin Map


 จากสถานี Zoologischer Garten เราจะนั่งรถสาย M45 ไปยัง พระราชวังชาล็อตเทนเบิร์ก (Schloss Charlottenburg) พระราชวังอันสวยงาม ซึ่งเดิมเป็นที่ประทับฤดูร้อนในสมเด็จพระราชินีโซเฟียชาล็อต พระราชวังแห่งนี้สร้างปลายศตวรรษที่ 17 และมีการต่อเติมเรื่อยมาในศตวรรษที่ 18 เดิมมีชื่อว่า Lietzenburg เป็นพระราชวัง สำหรับฤดูร้อนของพระเจ้าเฟรดเดอริกที่ 1 ต่อมาเมื่อพระราชินีคือพระนางโซเฟีย ชาล็อตสวรรคตลง จึงเปลี่ยนชื่อพระราชวังตามชื่อของพระนางเพื่อเป็นการรำลึกถึง




นอกจากที่ผมได้พาเที่ยวชมแล้ว เมืองนี้ยังมีจุดที่น่าสนใจอีกมากมาย ซึ่ง ผมได้เลือกบางสถานที่ที่ ไม่ควรจะพลาดมารวบรวมไว้บางส่วน


• Berliner Mauer หรือ กำแพง Berlin : S-Nordbahnhof
          สถานีรถไฟแห่งนี้ ตั้งอยู่ตรงเขตแดนรอยต่อระหว่าง East และ West Berlin พอดี ซึ่งในสมัยนั้น รถไฟจะไม่จอดที่สถานีนี้ และ มีการเฝ้าระวังผู้หลบหนีโดยทหารของ East German อย่างเข้มงวด
ซึ่งหากจะชมกำแพง Berlin แม้อาจจะพอมีซากเหลืออยู่ในจุดอื่นๆด้วย แต่ผมขอแนะนำจุดนี้ เพราะยังคงไว้ซึ่งซากกำแพงและ หอตรวจการณ์ และ โครงสร้างอื่นๆไว้ พร้อมยังมีจุดชมจากที่สูงและศูนย์ข้อมูลต่างๆที่เปิดให้เข้าชมได้ฟรี อยู่ด้วย


• East Side Gallery : S-Ostbahnhof
          เป็นภาพวาดบนกำแพง Berlin ที่เรียงยาวไปเป็นแนว ซึ่งเป็นอีกlookหนึ่งของกำแพง Berlin ที่ให้อารมณ์ต่างจากเพียงแค่กำแพงทึมๆที่ผมแนะนำไปอันที่แล้ว


• Checkpoint Charlie : U-Kochstr.

Check point หรือ จุดผ่านแดนนี้ตั้งอยู่บน Friedrichstr. ครั้งหนึ่งในยุคสงครามเย็น ทหารอเมริกันของ West Berlin และ ทหารโซเวียดของ East Berlin ประจันหน้ากันตลอดเวลา แน่นอนว่าทั้ง 2 ฝ่ายต่างพร้อมที่จะแตกหักกันทุกเมื่อ ปัจจุบันที่นี่จะมีพิพิธภัณฑ์เกี่ยวกับ ประวัติศาสตร์ในยุคที่ Berlin ยังคงแยกเป็น 4 ส่วน รวมทั้ง มีการจัดแสดงความคิดสร้างสรรค์ของชาว เยอรมันตะวันออก ที่ต้องการจะเอาชนะ กำแพง Berlin และ มุ่งสู่เสรีภาพ ณ ดินแดนเยอรมันตะวันตกให้ได้



• Alt-Stadt Köpenick : จาก S- Köpenick นั่งรถรางสาย 62 หรือ 68 ลงที่ Rathaus Köpenick
เป็นเมืองเก่า ที่เริ่มมีประวัติศาสตร์มาตั้งแต่ คศ.1209 ซึ่งเขตนี้ตั้งอยู่ทางตะวันออกของ Berlin ซึ่ง แถบนี้เป็นเมืองเก่าที่ล้อมรอบด้วยแม่น้ำ และ ทะเลสาบ และยังมีธรรมชาติที่สวยงามอีกด้วย



• Wannsee : S-Wannsee
อยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของ Berlin และ ใกล้กับเมือง Potsdam ซึ่งย่านนี้เป็นทะเลสาบที่สวยงาม ซึ่งมีกิจกรรมทั้งพายเรือและอื่นๆ เป็นชานเมืองบรรยากาศสงบเงียบ และเป็นย่านที่อยู่อาศัยของคนรวยด้วย



• Potsdam : S-Potsdam Hbf (หากมาจาก Berlin Hbf แนะนำให้นั่งเป็นรถ RE1 จะเร็วกว่า S-Bahn)
เป็นเมืองที่อยู่ข้างๆ Berlin ซึ่งเมืองนี้เป็นเมืองที่มีบรรยากาศสวยงาม และ มี Sanssouci Park ซึ่งประกอบด้วยพระราชวัง Sanssouci และ อาคารรูปทรงสวยงามมากมาย ซึ่งหากมีเวลาเยอะหน่อย ในตัวเมือง Potsdam ก็ยังมีอะไรที่น่าสนใจอยู่อีกพอสมควร




 สำหรับ Berlin แล้ว ความจริงยังคงมีจุดที่น่าสนใจอีกมากมาย ที่ไม่ได้กล่าวถึง ณ ที่นี้ ถ้ามีโอกาสสักครั้ง ก็อย่าลืมแวะมาเที่ยวกันด้วยนะครับ แล้วรับรองว่า Berlin จะไม่ทำให้คุณผิดหวัง อย่างแน่นอน....


   และสุดท้าย หากเดินๆอยู่ในเมือง Berlin ก็อาจจะพบกับแนวอิฐที่ทอดยาวไปเรื่อยๆ นั่นคือ ณ จุดนั้น เคยเป็นที่ตั้งของแนวกำแพง Berlin นั่นเองครับ...